นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

               บริษัท โกลบอลโทรนิค อินเตอร์เทรด จำกัด (“บริษัท”) และบริษัทในเครือ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า/คู่ค้าทางธุรกิจ ประกอบกับบริษัท มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งกำหนดมาตรการในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้ประกอบการที่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพ โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะบอกทางเลือกของท่านและการดำเนินการของบริษัทเกี่ยวกับข้อมูลที่ท่านให้กับบริษัท

 

การทำธุรกรรมทางด้านธุรกิจกับบริษัทอาจเกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลของท่าน (ตามที่กำหนดไว้ใน ข้อ1 ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมและบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างไร” ด้านล่างนี้) บนเอกสารของบริษัท (รวมถึงเว็บไซต์ของบริษัท) ทั้งนี้ เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นที่ท่านจะต้องเข้าใจว่าเรื่องเหล่านี้ดำเนินการอย่างไรและท่านจะสามารถควบคุมได้อย่างไร ดังนั้น ขอให้ท่านกรุณาอ่านนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ด้วยความระมัดระวัง

 

ช่องทางการติดต่อบริษัท

ในกรณีที่ท่านประสงค์จะติดต่อบริษัทเกี่ยวกับนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว  กรุณาติดต่อบริษัทได้ทั้งทางไปรษณีย์, อีเมล์ หรือ โทรศัพท์

          แผนกดูแลข้อมูลส่วนบุคคล

          บริษัท โกลบอลโทรนิค อินเตอร์เทรด จำกัด

          เลขที่ 25/13 หมู่ที่ 12 ตำบลบึงคำพร้อย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12150

          อีเมล์ pdpa@gti.co.th  โทรศัพท์: 02-1054733 

 

การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้อาจถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ โดยขึ้นอยู่กับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประกาศบังคับใช้ ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมวิธีการใช้ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุไว้นี้ส่งผลกระทบต่อท่าน ท่านจะได้รับการติดต่อผ่านช่องทางที่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น บริษัทอาจจะแจ้งเตือนให้ท่านทราบอย่างชัดเจนบนหน้าระบบบริการเว็บไซต์หรือส่งอีเมล์ให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เป็นต้น

1. ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมและบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างไร

               ในการให้บริการของบริษัทจะเก็บรวบรวม เก็บรักษาและใช้ข้อมูลของท่านดังต่อไปนี้

                          “ข้อมูล” ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลที่มิใช่ข้อมูลส่วนบุคคล

                          “ข้อมูลส่วนบุคคล” ได้แก่ ข้อมูล หรือการรวมกันของข้อมูลซึ่งเกี่ยวกับท่านและสามารถใช้ระบุตัวตนของ

ท่านได้ โดยที่ข้อมูลส่วนบุคคล อาจรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลที่ท่านให้แก่บริษัทเมื่อมีการทำธุรกรรมทางด้านธุรกิจ การใช้บริการของบริษัท เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด อายุ อีเมล์หมายเลขโทรศัพท์ เลขที่บัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลทางด้านการเงิน หรือชื่อบัญชีโซเชียลมีเดียต่างๆ เป็นต้น ซึ่งสามารถบ่งบอกตัวตนของท่านได้ และเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ และเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน จะถูกนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัทเท่านั้น และบริษัทจะดำเนินมาตรากรที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

                            “ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าใช้บริการ” ได้แก่ ข้อมูลทางเทคนิคที่บริษัทมีการเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติเมื่อท่านใช้บริการของบริษัท ไม่ว่าจะผ่านทางการใช้งานทางเว็ปไซต์หรือทางคุกกี้ (ตามที่จะมีการอธิบายในรายละเอียดใน ข้อ 7.คุกกี้) ตำแหน่งพื้นที่ของท่าน หรือข้อมูลอื่นๆ ซึ่งรวมถึง:

  • ข้อมูลทางเทคนิค เช่น ข้อมูลการตั้งค่าที่ส่งให้แก่บริษัทโดยเว็บเบราเซอร์หรือโปรแกรมอื่นๆ ซึ่งท่านใช้ในการเข้าถึงบริการของบริษัท ไอพีแอดเดรสของท่าน เวอร์ชั่นและเลขทะเบียนของอุปกรณ์ของท่าน

  • ข้อมูลเกี่ยวกับการสืบค้นและการรับชมในขณะที่ท่านใช้บริการของบริษัท เช่น คำสืบค้นที่ได้ใช้ บัญชีโซเชียลมีเดียที่ท่านเข้าชม ข้อมูลและเนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเข้าถึงหรือมีการส่งคำร้องขอจากท่านในการใช้บริการของบริษัท

  • ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารซึ่งท่านใช้ในบริการของบริษัท เช่น บุคคลซึ่งท่านได้มีการติดต่อสื่อสารด้วย และเวลา รวมถึง ระยะเวลาที่ท่านติดต่อสื่อสารด้วย และข้อมูลกำกับ(metadata) ซึ่งหมายถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรายการที่ท่านได้ใช้ผ่านบริการของบริษัท เช่น วันที่ เวลาหรือตำแหน่งพื้นที่ซึ่งรูปภาพหรือวีดีโอที่ได้ทำการแบ่งปันข้อมูลมานั้นได้ถูกทำขึ้นหรือโพสต์ไว้

                           “ข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล” ได้แก่ ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านแต่ไม่สามารถใช้ในการระบุตัวตนของท่านไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบของข้อมูลสรุปหรือไม่มีการเปิดเผยชื่อ หรือเป็นนามปากกา

                           “ข้อมูลที่แบ่งปันร่วมกัน” ได้แก่ข้อมูลเกี่ยวกับท่านหรือเกี่ยวข้องกับท่านซึ่งได้มีการแบ่งปันในบริการของบริษัทอย่างสมัครใจ รวมถึงการโพสต์ข้อมูลซึ่งท่านใช้ในบริการของบริษัท (รวมถึงโปรไฟล์สาธารณะของท่านและรายการที่ท่านสร้างขึ้น) ข้อมูลการโพสต์ของบุคคลอื่น ซึ่งท่านได้นำไปโพสต์ซ้ำรวม ซึ่งผู้อื่นที่ได้ใช้บริการของบริษัทได้แบ่งปันข้อมูลดังกล่าวเกี่ยวกับท่าน

 

2.การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจํากัด

          บริษัทจะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยมี วัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยในการเก็บรวบรวมนั้นจะทำเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูล รับรู้ ให้ความยินยอมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือตามแบบวิธีการของบริษัท กรณีที่บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูล บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยชัดแจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวจะเข้าข้อยกเว้นตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือกฎหมายอื่นกำหนดไว้

 

3. มาตราการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและคุณภาพของข้อมูล   

          บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจึงกำหนดให้มาตราการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายตลอดจนป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กำหนดนโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

 

4. วัตถุประสงค์ในการรวบรวม จัดเก็บ ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคล

          บริษัทรวบรวม จัดเก็บ ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การจ้างงาน การทำสัญญา เพื่อติดต่อประสานงาน หรือดำเนินการเพื่อประโยชน์ในการซื้อขายสินค้า เพื่อให้บริการแก่ท่าน รวมถึงบริการที่ท่านสนใจ เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือ บริการช่องทางชำระเงิน การประชาสัมพันธ์ หรือบริการอื่นใด หรือการจัดทำบริการทางดิจิทัล หรือการวิจัยตลาด หรือเพื่อประโยชน์ในการจัดทำฐานข้อมูลและใช้ข้อมูลเพื่อเสนอสิทธิประโยชน์ความความสนใจของท่าน หรือเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ และนำเสนอบริการหรือผลิตภัณฑ์ใดๆของผู้ให้บริการ และ/หรือบุคคลที่เป็นผู้จำหน่าย เป็นตัวแทน หรือมีความเกี่ยวข้องกับผู้ให้บริการและ/หรือของบุคคลอื่น และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย และ/หรือ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินงาน บริษัทจะไม่กระทำการใดๆ แตกต่างจากที่ระบุ ในวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูล เว้นแต่

          (1) ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้แก่เจ้าของข้อมูลทราบ และได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล

          (2) เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือหน่วยงานอื่นที่กำกับดูแลกลุ่มบริษัท

 

5. ข้อจำกัดในการใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

          5.1 บริษัทจะใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ตามความยินยอมของท่านโดยจะต้องเป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม จัดเก็บ ข้อมูลของบริษัทเท่านั้น (ข้อ4)   บริษัทจะกำกับดูแลพนักงาน เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฎิบัติงานของบริษัทมิให้ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหรือเปิดเผยต่อบุคคลภายนอกเว้นแต่

          5.2 เป็นการปฎิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา เป็นต้น

          5.3 เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพาจารณาพิพากษาคดีของศาล

                5.3.1 เพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น

                5.3.2 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บริษัท

                5.3.3 เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และสุขภาพของบุคคล

                5.3.4 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฎิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น

                5.3.5 เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตราการป้องกันที่เหมาะสม

           5.4 บริษัทอาจะใช้บริการสารสนเทศของผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลนอกเพื่อดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งผู้ให้บริการนั้นจะต้องมีมาตราการรักษาความมั่นคงปลอดภัย โดยห้ามดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือจากที่บริษัทกำหนด

 

6. สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

            ท่านอาจมีสิทธิภายใต้กฎหมายไทย หรือกฎหมายอื่นในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และร้องขอที่จะแก้ไข ลบ หรือจำกัดการใช้ข้อมูลของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะคัดค้านการใช้ ร้องขอให้ถ่ายโอนไป หรือเพิกถอนความยินยอมในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรุณาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการใช้สิทธิของท่านด้านล่างนี้

             บริษัทจะเคารพสิทธิของท่านภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ภายใต้กฎหมายไทย และอาจมีสิทธิที่เหมือนกันนี้ภายใต้กฎหมายอื่น ๆ

  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล กล่าวคือ ท่านมีสิทธิที่จะเขียนคำร้องเพื่อขอทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกจัดเก็บ และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกจัดเก็บไว้

  • สิทธิในการขอแก้ไข กล่าวคือ ท่านมีสิทธิที่จะร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องและดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง

  • สิทธิในการลบข้อมูล (สิทธิที่จะถูกลืม) คือ สิทธิในการที่จะลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออก

  • สิทธิในการอนุญาตให้ใช้อย่างจำกัด กล่าวคือ สิทธิที่จะร้องขอให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างจำกัดตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้เฉพาะ

  • สิทธิในการยกเลิกประชาสัมพันธ์ด้านการตลาด

  • สิทธิในการคัดค้าน กล่าวคือ ท่านมีสิทธิที่จะคัดค้านการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือในกรณีที่บริษัทให้ท่านทราบถึงการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบสิทธิตามกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลภายนอก

  • สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม คือ สิทธิที่ท่านจะเพิกถอนความยินยอม ณ เวลาใด ๆ ที่ท่านเคยให้ไว้ก่อนหน้านี้แก่บริษัทในการใช้จัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ถ้าท่านเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้แก่บริษัท จะไม่ส่งผลถึงการใด ๆ ก่อนหน้าที่บริษัทได้ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอ้างสิทธิตามกฎหมาย

สิทธิดังกล่าวข้างต้นไม่ใช่สิทธิเด็ดขาดและไม่สามารถปรับใช้ได้ทุกกรณี

ในการตอบสนองคำร้องขอ บริษัทอาจจะร้องขอให้ท่านยืนยันตัวตนหากจำเป็น และจัดหาข้อมูลเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทเข้าใจคำร้องขอของท่านมากยิ่งขึ้น หากบริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอของท่านได้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงเหตุผลดังกล่าว  ในการใช้สิทธิของท่าน โปรดติดต่อผู้ดูแลข้อมูลส่วนบุคคลตามช่องทางการติดต่อที่แจ้งไว้ทางด้านบน

 

7. คุกกี้ (Cookies)

          คุกกี้  ภาษาอังกฤษ Cookies คือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (Text File) ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อบริษัทเข้าชมเว็บไซต์ คุกกี้จะจดจำข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท

บริษัทใช้ Cookies ในการจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท โดยการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประสิทธิภาพในการเข้าถึงบริการของบริษัทผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โดยมีรายละเอียดและแบ่งตามลักษณะของการใช้งานได้ดังนี้

จุดประสงค์การใช้คุกกี้ (Cookies) ของบริษัท

          1. สามารถเข้าสู่ระบบบัญชี (Session) ของผู้ใช้งานของบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง และปลอดภัย

          2. บันทึกข้อมูลการใช้งาน รวมถึงรูปแบบที่ผู้ใช้งานได้ตั้งค่าการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทเอาไว้

          3. เพื่อพัฒนาให้สามารถใช้งานได้ง่าย รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพดียิ่งๆ ขึ้น

ประเภทของคุกกี้ (Cookies) ที่บริษัทใช้

1. คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies) :

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้เป็นปกติ มีความปลอดภัย เช่น การเข้าสู่เว็บไซต์ระบบ (Log in) การยืนยันตัวตน (Authentication)

2. คุกกี้เพื่อช่วยในการใช้งาน (Functional Cookies) :

ใช้ช่วยจดจำข้อมูลที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทได้ตั้งค่าต่างๆเอาไว้ เช่น ข้อมูลการลงทะเบียน ข้อมูลการ log in เพื่อให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทสามารถใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องให้ข้อมูลหรือตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่เข้าเว็บไซต์ ทั้งนี้หากไม่ยินยอมให้บริษัทใช้คุกกี้ประเภทนี้ อาจใช้งานเว็บไซต์ได้ไม่สะดวกและไม่เต็มประสิทธิภาพได้

3. คุกกี้บุคคลที่สาม (Third-party Cookies) :

ใช้เก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อให้บริษัทสามารถวัดผล ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาเนื้อหาบริการเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ เช่น Google Analytics เป็นต้น

8. การโฆษณาและการตลาด

          บริษัทอาจใช้ข้อมูลของท่านเพื่อจัดส่งโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น อีเมล์ โทรศัพท์ ข้อความ หรือ          สื่อออนไลน์ต่างๆ เป็นต้น

 

9. การแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านร่วมกับผู้อื่น

          นอกจากที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ในนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้หรือตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ในกรณีอื่น ๆ บริษัทจะไม่โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกไม่ว่าเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ใด ๆ ก็ตาม บริษัทอาจนำข้อมูลของท่านไปแบ่งปันกับบริษัทอื่น ๆ ภายในกลุ่ม รวมถึงพันธมิตรผู้ร่วมทุนและผู้ให้บริการภายนอก ผู้รับเหมา และตัวแทน (เช่น ผู้ให้บริการในการวิเคราะห์ข้อมูลซึ่งให้ความช่วยเหลือในด้านธุรกิจและการโฆษณาเกี่ยวกับบริการของบริษัท) นอกจากนี้บริษัทอาจอนุญาตให้บุคคลอื่นเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการใช้บริการของบริษัทโดยในแต่ละกรณีบริษัทจะอนุญาตให้มีการใช้ข้อมูลของท่าน และ/หรือเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

                                (1) ให้บริการแก่ท่าน

                                (2) ช่วยเหลือบริษัทเกี่ยวกับการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ (ในข้อ 4 วัตถุประสงค์ในการรวบรวม จัดเก็บ ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคล)

                                (3) ดำเนินการตามข้อผูกพันและการบังคับใช้สิทธิของบริษัทภายใต้ข้อกำหนดการใช้บริการ หรือนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และ/หรือ

                                (4) ธุรกิจของบริษัทซึ่งรวมไปถึงการนำข้อมูลไปใช้เพื่อให้บริษัทสามารถทำความเข้าใจและปรับปรุงการบริการของบริษัท


ในกรณีที่บริษัทอนุญาตให้บุคคลอื่นเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในวรรคก่อนบริษัทจะดำเนินการตามสมควรเพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลอื่นเหล่านั้นจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในเรื่องดังต่อไปนี้เท่านั้น

                                 (1) เป็นไปโดยสอดคล้องกับนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

                                 (2) อยู่ภายใต้บังคับของคำสั่งอื่น ๆ ที่บริษัทได้กำหนดและแจ้งให้แก่บุคคลข้างต้นได้รับทราบรวมถึงนำมาตรการที่เหมาะสมที่บริษัทใช้ในการ รักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลไปปฏิบัติด้วย

ท่านให้ความยินยอมแก่บุคคลอื่นตามที่ระบุไว้เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรวมถึงการนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปแบ่งปันหรือโอนให้กับผู้อื่น (รวมทั้งกรณีที่อยู่ในและอยู่นอกเขตอำนาจศาลที่ใช้บังคับกับท่าน) ตามที่ได้ระบุไว้ในหัวข้อ “การแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านร่วมกับผู้อื่น”

 

10. การติดต่อสื่อสารจากบริษัท

จดหมายข่าวและการติดต่อสื่อสารในรูปแบบอื่น เมื่อท่านใช้บริการของบริษัท บริษัทอาจใช้ข้อมูลของท่านเพื่อจัดส่งอีเมล์ จดหมายข่าว หรือการแจ้งข้อมูลมายังท่านได้ ในกรณีที่ท่านไม่ประสงค์จะได้รับการติดต่อสื่อสารดังกล่าวอีกต่อไป ท่านสามารถกระทำได้โดยการปฏิบัติตามรายละเอียดของการยกเลิกการรับข้อมูลตามที่ปรากฏอยู่ในอีเมล์ที่บริษัทจัดส่งให้แก่ท่าน หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ดูแลความเป็นส่วนตัวของบริษัท

 

11. ประกาศที่เกี่ยวกับบริการ

บริษัทอาจจะจัดส่งประกาศที่เกี่ยวกับบริการให้แก่ท่านเป็นครั้งคราวเมื่อบริษัทเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการในเรื่องนั้น (เช่น วันปิดทำการตามวันหยุดนักขัตฤกษ์)

 

12. การเคารพความเป็นส่วนตัวของท่าน

          บริษัทให้ความสำคัญอย่างมากกับการเคารพความเป็นส่วนตัวของท่าน โดยท่านสามารถเลือกที่จะไม่รับบริการข้อมูลทางการตลาดหรือข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์จากบริษัทได้ทุกช่องทางทางการติดต่อ และเมื่อปฎิเสธการรับข้อมูลดังกล่าวลูกค้าจะยังคงได้รับข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องกับบริการ

 

13. ข้อพิจารณาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสำคัญ (Sensitive Personal Information)

          ในเขตอำนาจศาลบางแห่งข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณีเช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ ศาสนา ความเชื่อในเรื่องปรัชญาหรือข้อมูลด้านสุขภาพถูกกำหนดให้เป็น”ข้อมูลสำคัญ”และอยู่ภายใต้บังคับของกฎ ระเบียบที่มีความเข้มงวดมากกว่าข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีอื่นๆ ทั้งนี้โปรดสังเกตว่าเนื้อหาและข้อมูลที่ท่านได้ใช้ในบริการของบริษัท เช่น รูปภาพหรือข้อมูลกิจกรรมทางสังคมของท่านอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสำคัญของท่านให้แก่บุคคลอื่นทราบได้

 โปรดสังเกตว่าบริษัทมิได้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสำคัญของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาใด ๆ แก่ท่าน

 

 14. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในคำประกาศฉบับนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่บริษัทยังมีความสัมพันธ์กับท่านในฐานะลูกค้าของบริษัท และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมายหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในของบริษัท

 

ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)

 

15. การทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจทำการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมาย การเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ โดยกลุ่มบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลง           ให้ทราบอย่างชัดเจนทาง Website ของบริษัท    www.gti.co.th